[4 days in Cebu] : #whalesharkiscallingus ไปหาน้องจุดกันเถอะ




 Cebu หรือ  ซีบู ราชินีของเกาะแดนใต้

Cebu เป็น 1ใน 81 จังหวัดของประเทศฟิลิปปินส์ตั้งอยู่บน Central Viyasas มีเมืองหลักชื่อว่า Cebu City  ประกอบไปด้วย 44 เขตเมือง โดยมีเมืองหลัก 7 เมืองได้แก่ Cebu city , Carcar City, Danao City , Lapu-Lapu City , Mandaue City, และ Talisay City  สนามบินหลักคือ Mactan - Cebu International Airport ซึ่งตั้งอยู่บน Mactan Island  

และเป้าหมายหลักของเราในการไปเหยียบครั้งนี้ก็เป็น 1 ใน 44 เขตเมืองที่เป็นแหล่งฉลามวาฬและเหล่าลูกสมุนผู้น่ารัก


เพราะ  น้องจุดกำลังเรียกหาเราที่ "OSLOB"


จุดเริ่มต้นของทริปนี้เกิดจากการที่อยากใช้วันหยุดช่วงสงกรานต์ไปเที่ยวจริงๆ
เพราะตั้งแต่จบป.ตรีมาวันสงกรานต์ในแแต่ละปีถ้าไม่ถูกผูกติดกับงาน ก็เอาไปใช้กับ projectป โท
นี่นับได้ว่าเป็นปีแรกของการปลดวางทุกสิ่งและได้ใช้ช่วงวันหยุดสงกรานต์จริงจัง  และในการเดินทางครั้งนี้เราก็ได้ไปหลอกล่อสมาชิกมาอีก 1  , my diving partner :)))


 การเดินทางไป Oslob ก็ไม่มีอะไรมากกกกก แค่ใช้งานตูดไปประมาณ 10 กว่าชั่วโมงเอง !!
กำหนดการเที่ยวของคือ  13 - 16 เมษายน ใน 4 วัน มีเวลาได้เที่ยวจริงๆ แค่ 2 วัน
 นอกนั้นหมดไปกับการเดินทาง แนะนำว่าถ้าอยากจะฟินกับ Cebu มากกว่านี้ จงเสียสละวันลางานซะ !! 


Trip Plan :


  • 12 - 13  เมษา  :  เดินทาง 
  • 14 เมษา :  Diving 3 Dives  ( 1 Dive for Whale Shark Watching ,  2 Dives at Caceres Secret Reef)
  • 15 เมษา :  Canyoneering   และเดินทางเข้า Cebu City ตอนกลางคืน 
  • 16 เมษา : เดินทางกลับไทย ไฟท์ 7 โมงเช้า
Fight Schedule :




- - - 12. 04. 2018 - - -

 พวกเราเริ่มเดินทางในวันที่ 12 เมษา โดยการไปพักหลับที่   Singapore Changi Airport  สนามบินที่ได้รับการขนานนาม World 's Best Airport 2018 มาหมาดๆ และนั่นก็ไม่ทำให้เราผิดหวังจริงๆ



-- ที่นวด --



-- ที่นอน --





-- ที่เล่น --





-- ที่ระลึก --

นอกจากนี้เขายังมีโรงหนัง สระว่ายน้ำ  อีกนะ... คือตื่นเต้นมาก อาจเพราะปกติไปแต่ transit KL  ทำให้ตอนนี้ตั้งใจแล้วว่าไปไหนจะเลือกหา Transit Changi  :)

จาก SG ไปยัง Mactan Airport (Cebu) ใช้เวลาบินอีก 4 ชั่วโมง
และการใช้งานตูดแบบจริงจังก็เริ่มขึ้น .....




 - - - 13. 04. 2018 - - -

การเดินทางไป Oslob คือเราต้องไปขึ้นรถ Ceres Bus ที่ Cebu South Bus Terminal 
 เราเริ่มจากการหา Taxi จากสนามบินไป จากการศึกษาค้นคว้าโดยผู้ร่วมเดินทางของเรา   
เมื่อออกจาก gate สนามบินมาให้เดินไปทางขวา เดินไปเรื่อยๆจนสุด จนกว่าจะเจอจุดจอด Taxi 
ซึ่ง Taxi สีขาวตรงนี้จะเป็น Taxi meter คิดตามระยะทาง :) 

อ๋ออีกอย่าง คนฟิลิปปินส์เขาขับรถด้านซ้ายนะ !! 






โคตรชอบสีท้องฟ้า สีท้องฟ้าฟ้าเอามากๆ 


เรานั่งแช่อยู่บนรถ Taxi  ข้ามสะพาน ผ่านวิว ทะเล ที่สวยเอามากๆ พอเห็นทะเลทีก้ตื่นเต้นที 
ราวกับว่า ฉันไม่เคยไปทะเลมาก่อน  
เราใช้เวลาอยู่บน Taxi ประมาณเกือบ ชั่วโมง  ที่นี้รถติดมาก  และจะติดไปเรื่อยๆ  

สำหรับใครที่นั่ง Taxi มา  Cebu South Bus Station ไม่ต้องให้ Taxi พาเข้าข้างในนะ จอดแค่หน้าสถานีก็พอแล้ว  เพราะจะต้องเสียค่าเข้าให้เขาด้วย  เป็นประสบการณ์ที่เกิดจากความขี้เกียจของเราเอง  อิ :)

ระบบรถ Bus ไป Oslob เหมือนกับระบบรถเมล์บ้านเรา ไม่ต้องซื้อตั๋วจองที่นั่ง เพียงแค่เราลงจาก Taxi มองหน้าพนักงานที่อยู่ตรงชานชะลารถซักคน แล้วบอกว่า " Go Oslob"  เสียงตะโกนและนิ้วมือจะนำพาทางให้เราไปพบกับ จุดจอด Ceres Bus รถ Bus ติดแอร์ ที่ถ้าพวกเราก้าวขึ้นช้าอีกนิดเดียว เราจะไม่มีโอกาสได้เบาะนั่งอีกเลย   พอรถเคลื่อนตัวออกไปซักพักก็จะมีพนักงานพร้อมเครื่องเจาะรูกระดาษมาถามป้ายที่จะลง จ่ายตังค์ และ ให้ตั๋ว ...รู้สึกคลาสสิก  


รถคันนี้มีเด็กนอก (ประเทศ) แค่พวกเรา 2 คน ที่นั่งของพวกเราวิวดีมาก นั่งอยู่หลังสุดตรงกลางพร้อมกระเป๋าเดินทางสองใบหนาแน่น  Music playlist บนรถคันนี้ก็ผลัดหมุนเวียนเดี๋ยวก็เป็นเพลงฝรั่งยุค 90s  เดี่ยวก็เป็นเพลงฟิลิปปินส์ รถวิ่งๆไปซักพักก็จะมีคุณลุง คุณป้า เด็กๆ หมุนเวียนขึ้นมาขายของ ... บางทีก็นึกสงสัยว่า นี่กำลังนั่งรถบัส หรือ รถไฟ ... คลาสสิกได้อี๊กก

ด้วยสภาพการจราจรที่ติดมาก มาก มากกถึงมากที่สุด  รู้สึกว่าหลับๆตื่นๆหลายรอบ ตื่นมาทีไรพอเช็ค Google map ก็จะ อีก 2 ชมถึง  อีก 1 ชม ถึง คือไม่ถึงงงซะกะที  !!!

พวกเราใช้ตูดบนรถบัสนี้ไปกว่า 5 ชั่วโมง จำได้ว่า ออกรถประมาณ 2 โมงครึ่ง ถึง Oslob น่าจะเกือบทุ่มครึ่งได้  >__<


ที่พักของเราชื่อ The Biggies Inn  เป็นที่พักที่ห่างออกมาจากจุดเมืองใน Oslob ประมาณ 8 กิโล 
 จะอยู่ค่อนมาทางใกล้กับจุด Whale shark watching  (ห่างประมาณ 850 เมตร)


เราจองที่นี้ผ่าน Booking .com มา 
ที่นี้ให้ความรู้สึกเหมือนบ้าน 
เป็นห้องพักเตียงสองชั้น มีห้องน้ำในตัว  ห้องของเราเป็นสีชมพูอินเลิฟสุดๆ





 และมื้ออาหารแรกจริงๆของวันนี้ก็เริ่มต้นขึ้นตอน 2  ทุ่มกว่าได้ 
แกงปลาที่รสชาติแปลกๆ ให้ความรู้สึกเปรี้ยวๆ เหมือนคล้ายๆผสมต้มจืดผักกาดดอง
กับไก่อาโดโบ (adobo ) ที่จากการที่เพื่อนเปิด google และบอกว่ามา ฟิลิปปินส์ เราต้องกิน adobo !!

Adobo - เป็นเมนูพื้นเมืองของคนฟิลิปปินส์ เป็นการหมักอาหารที่ใช้น้ำส้มสายชูและกระเทียมทอดในน้ำมันจนเป็นสีน้ำตาล คำว่า อาโดโบเป็นคำที่มาจากภาษาสเปน  


อาหารของเขาถูกปากอยู่ หรือเพราะเราเป็นคนที่กินได้ทุกอย่างก็ไม่รู้ 55






การกินข้าวไปดู wallpaper นี่ไป โคตรได้ฟีลอะ ...... ตั้งตารอพรุ่งนี้อย่างจริงจัง




- - - 14. 04. 2018 - - -


Oslob ที่เห็นช่างแตกต่างกับที่คิดไว้มากๆ และโคตรรู้สึกดีที่มันไม่ใช่อย่างที่คิด 
ตอนแรกเราคิดว่า Oslob จะให้ความรู้สึกวุ่นวายเหมือนพัทยา แต่มันเงียบกว่ามากๆ และมากๆ 
 สำหรับตัวเราเราชอบความเงียบของ Oslob มันทำให้เรารู้สึกว่าได้พักผ่อนจริงๆ 





เช้านี้เราตื่นกันประมาณ 05.00 น.  เพราะเรามีนัดเริ่มทริป diving ดูฉลามวาฬตั้งแต่ 6 โมงเช้า 
850 เมตร ในการเดินไปจุดนัดพบ แลดูช่างยาวไกล อาจเพราะมันเป็นการเดินขึ้นลงเขาที่ช่างไร้ผู้คน

การเดินเล่นใน zone นี้เราต้องรับมือกับเสียงแตรรถ ไอ้เรารึตอนแรกก็คิดว่าจะบีบมาทำมาายยย ตูก็เดินตัวก็ชิดขอบถนนสุดๆละไม่ได้ไปเกะกะหรืออย่างไร มีครั้งนึงที่เสียงรถบีบยาวมากก ในใจนี่ของขึ้น คำหยาบนี้มา จนต้องหันไปมอง แต่ภาพที่ได้เห็นคือ การโบกมือทักทาย  .... OMG !!  ที่บีบแตรกับทั้งหมดนี่เพื่อ   Say hi นักท่องเที่ยวอย่างพวกเรา !!  ความรู้สึกนี่ตัดสินใจกันไม่ได้เลยว่าจะโกรธ หรือจะยินดีไปกับพวกเขาด้วย  _*_  

 1 Day Diving package ที่เราเลือกใช้เป็นของ Deepzonediving Center  เป็น diving center ที่ตั้งอยุ่ตรงข้ามกับจุด Whale Shark Watching 
 ( >> https://deepzonedivecenter.com/ )

อยากบอกว่าร้านหน้าอาหารหน้า Diving center เด็ดมากกก 
น้ำปั่น และ Pizza ช่างดีงามมมมม



ความตั้งใจแรกเลือกคือการเลือก package 3 dives ที่มี 1 dive ไปดูฉลามวาฬ และอีก 2 dives ที่ Sumilion Island  แต่ช่างเป็นโชคที่ไม่ดีเสียนี่กระไร   Emailตอบกลับจาก Deepzone คือ
Sumilion island ปิดเกาะ !!! ไอ้เรารึก็รีบพิมพ์หาข่าว ไม่เชื่อ  

" Sumilon Island sandbar, diving site to close from April 10 to 16"    - The Office of the Municipal Mayor attributed the closure to a "clean up and rehabilitation" that would run from April 10 to 16"    ข่าว CNN โชว์หราอยู่บน Google ช่างเป็นการปิดที่ถูกจังหวะกันจริงๆ  นี่เขาต้องตามกระแสการปิดอ่าวมาหยาของเราแน่ๆ 



สรุปสุดท้าย 1 Day Diving package ของเราเลยมาจบลงที่  " 1 Dive for Whale Shark Watching  และ 2 Dives  at Caceres Secret Reef "  ราคาของ package จะอยู่ที่ประมาณ 7,900 Peso หรือ ประมาณ 5,000 บาท  
ใน package นี้ที่เรายินดีมากๆ คือDive master จะถือกล้องไปถ่ายรุปพวกเราให้ด้วย  เราแค่พก USB ไปเพื่อ save รูปจากเขา เพราะด้วยความที่เรายังเป็นนักดำน้ำมือใหม่ที่เชื่อฟังคุณครูอย่างเคร่งครัดว่า  "อย่าพึ่งถือกล้อง"  เราเลยไม่สามารถที่จะเก็บรูปได้ด้วยตัวเอง เพราะแค่ให้บังคับให้ตัวเราลอยในน้ำได้อย่างมั่นคงมันยังยากเลย  ให้ไปถือกล้องและถ่ายรูปอีกกกกก นี่ยังไม่อยากจะคิด -*-


 และที่ตื่นเต้นกว่านั่นคือ นี่เป็น ทริปดำน้ำลึกแรกสำหรับเราและเพื่อนที่พึ่งผ่าน License PADI มาหมาดๆ   !!! และนอกประเทศไทย   จำได้ว่าตอนที่บอก Diving Center เราย้ำพวกเขามากๆว่า นี่ เป็น " Our first dive after got License " เพื่อให้เขาช่วยรักษาชีพเราด้วย 55 + 




# Dive 1 : with Whale Shark 




กฏของการดูฉลามวาฬที่ Oslob  (ที่ต้องทำอย่างเคร่งครัด เพื่อน้องจุด !! )
  • All whale shark watchers must undergo orientation at the Briefing Center on the rules for interaction with whale sharks
  • No feeding of whale sharks by unauthorized personnel
  • Do not touch, ride, or chase a whale shark 
  • Do not restrict normal movement or behavior of the shark
  • Do not use flash photography (อย่าห่วงแต่จะเอาภาพสวยๆ จนลืมห่วงตาของน้องจุด)
  • Do not create splash when entering the water.
  • Do not wear sunscreen if you are going to enter the water. (อย่าห่วงแต่ผิวเรา จนไม่สนใจผิวของน้องฉลามวาฬ)
  • Motor boats are prohibited in the area. Only paddle boats are allowed.
  • Viewing is limited to 30 minutes
  • Maintain a minimum distance of 5m from the head, 6m from the tail (this differs from the 2m from the head, and 5m from the tail stated in the ordinance)
อีกอย่างจำได้ว่า  หัวหน้า Dive master บอกฝรั่งห้ามพกมีดดำน้ำลงไปด้วย แลเถียงกันตั้งนานมาก 
คุณ Dive master บอกว่า เขาเข้าใจ แต่เจ้าหน้าที่ที่นู้นไม่ฟังคุณหรอกนะ !! ฝรั่งถึงจบ 




การ diving ดูฉลามวาฬเป็นการดำน้ำจากหาด  หรือ Shore Diving  ซึ่งนี่ก็นับเป็นครั้งแรกเลยสำหรับพวกเราที่ต้องเดินแบก Tankอากาศจากชายหาดไปเรื่อยๆ  ท่ามกลางหิน หิน และ หินนน แล้วก็ค่อยๆลงจ๋อมไปในน้ำ 55+ 

แต่ก่อนที่จะได้ดำดูน้องจุด อุปสรรคก็ช่างมากมาย
พอถึงจุดที่ Dive master ให้สัญลักษณ์มือว่าลง ไอ้เราก็ปล่อยอากาศและลงไปตีขารอ Partner กับ Dive master ด้านล่าง ก็งงว่าทำไมตีขาไปตีขามา เท้าด้านซ้ายมันเบาๆวะ พอเอื้อมไปจับเท้าดู ฉิบ !!  ฟินหลุดจากเท้า !! แล้วมองไปทางไหนน้ำก็ขุ่น หาใครก็ไม่เจอ งงว่า เอ๊ะ Dive master กับ partner  ตูอยู่ไหนนน  ไอ้เราก็เลยค่อยๆ ตีขาขึ้นมาบนน้ำใหม่ แล้วก็พบว่า partner ของเราซวยกว่า เพราะกำลังมีปัญหากับ Regulator (อุปกรณ์ไว้หายใจทางปาก) ที่มันดันรั่ว เลยต้องเปลี่ยนไปใช้เส้นสำรองอีกเส้นแทน (น่ากลัวจริงๆ ....นี่ละ   !!  อย่าให้ครูรู้นะว่าไม่ตรวจอุปกรณ์เองก่อนลงน้ำ  ชู่วววววว   )  
ในส่วนของ ฟินเรานั่น พอคุณ Dive master จัดการอุปกรณ์เพื่อนให้ ก็ลงไปงมหาฟินขึ้นมาให้เรา 

ในใจเกิดมวลสารความสงสัยเล็กๆ ว่า " แค่ Dive แรก มันจะรอดใช่ปะวะ ?" 


แต่มวลสารความสงสัยเล็กๆนั่นก็จางหายสลายไป เมื่อได้พบกับ "น้องจุด" !!
มาวะ !!   Whale Shark is Calling us !!!!!!! 












Hey  My Diving Partner !! :)








จุด Dive สำหรับ ดูน้องจุด ไม่ได้มีแค่น้องจุด แต่ยังมีประการัง และ หมู่บ้านปลาย่อมๆ มีทั้งปลาตัวใหญ่ๆ แลดูน่ากินนนน  และที่ชะงักที่สุดก็คือการเจอปลาสิงโตลอยตัวอยู่  แม้ความรู้เกี่ยวกับใต้ทะเลจะช่างน้อยนิด แต่ 4 อย่างที่จำได้ขึ้นใจว่าอย่าไปยุ่งกับเขาเลย คือ หอยเม่น ปลาสิงโต งูทะเล แมงกระพรุน

และที่โชคดีที่สุดสำหรับเรา 2 คน คือการได้เห็นปู่เต่าที่ใหญ่เอามากๆ มีเหาฉลามเกาะหลังอยู่  3 ตัว  ต้องขอบคุณ Dive master จริงๆ ที่มาสะกิดๆ บอกให้ว่ายตามมา 

แต่ คุณ Dive master คะ !! ทำไมไม่พกกล้องมาด้วย   
อดรูปเต่าเลย  T^T




# Dive 2 & 3 : Caceres Secret Reef  

 Caceres Reef หรือ Luisan Shoal เป็น  Sea Mountain ที่อยู่ในบริเวณของ Oslob
ที่จุดนี้  Diver จะมีโอกาสเจอหมู่บ้านปลา  เต่า แมนต้า บาราคูด้า และอื่นๆ อีกมากมาย
สำหรับโชคของมือใหม่อย่างเรานั้นได้เจอ คือ หมู่บ้านปลา คุณเต่า และ งูทะเลที่ว่ายอยู่ด้านล่าง 





การ Dive รอบนี้เป็นการ Dive  จากเรือ  หรือ Boat Diving
และก็นั่นแหละ เป็นครั้งแรกอีกเช่นกันที่ใช้ Boat ที่เล็ก cute cute แบบนี้

แค่จุดขึ้นเรือ สีน้ำสีท้องฟ้าก็โคตรสวยมากกกกกกก
ทะเลเขาสีสวยจริงๆ






Dive Master ที่จะดูแลชีพของเราสองคนในครั้งนี้ 
ซ้าย : Dive Master ที่พาไปดูฉลามวาฬ และเก็บฟินให้ 
ขวา :  Dive Master  ที่จะพาไปทัวร์ Caceres




ยิ่งออกจากฝั่ง สีน้ำยิ่งฟ้าเข้มขึ้นชัดมากกกกกกกกกก







และการผจญภัยท่องหมู่บ้านปลาก็เริ่มขึ้นนนนน



นอกจากเจอปู่เต่า นี่ก็มาเจอพี่เต่าอีกนะ แถมด้วยงูทะเลว่ายอยู่ด้านล่าง  








นีโม คือ ปลาอันดับ 1 ในใจเสมอ   :3 





Dive แรกที่ลง พอเห็นเหวทางด้านขวาเรารู้สึกว่าเราอยากจะกรี๊ดด  เราสัมผัสได้ว่าหัวใจเราเต้นแรงมากกกกกก ตลอดการ dive เรามองแต่หมู่บ้านปลาด้านซ้าย พยายามไม่เหล่ตาไปมองด้านขวาเลยซักนิด 
ความเข้มและมืดที่ทำให้แทบมองไม่เห็นจุดสิ้นสุดในความลึกของมันทำให้เรารู้สึก หวืด และหวาดกลัว กลัวว่าจะถูกดูดลงไป หรือแม้กระทั่งว่ามันจะมีอะไรโผล่ขึ้นมางับตัวเรา แล้วหายไปหวืบ !! 

รู้สึกว่าการที่หัวใจเต้นแรงทำให้เราเหนื่อยและอึดอัดเอามากๆแต่เราต้องกดความตื่นกลัวนั่นไว้ เพราะพี่สาวสอนไว้ว่าเวลาดำน้ำตกใจยังไงก็ต้องทำเป็นไม่ตกใจ !!  นี่เป็นกฏเหล็กของการดำน้ำที่ท่องจำขึ้นใจเลย 
















โลกใต้น้ำมันเป็นโลกอีกโลกนึงจริงๆนะ มันสวยและมีเสน่ห์ มีประชากรเป็นสัตว์ทะเลที่อยู่รวมกันเหมือนกับเรา ภาพในตาที่เราเห็น บรรยากาศที่เราได้สัมผัสจริงๆ มันมากกว่าสิ่งที่เรามองเห็นในภาพ ภาพถ่ายออกมายังไงก็ไม่มีทางสวยงามเท่ากับสิ่งที่เราได้มองด้วยสายตาตัวเอง  ภาพในตาที่มีสีสันของประการัง ตัดกับสีสันของตัวปลาน้อยใหญ่ และสัตว์อื่นๆ ที่มีทั้งน่ารัก ดุ มีพิษ แต่เขาก็อยู่ในส่วนของพวกเขา ถ้าเราไม่ไปยุ่งกับเขา เขาก็ไม่ยุ่งกับเรา  ฉะนั้นเราถึงต้องรู้จักที่จะเคารพพวกเขาด้วย !!








เป็น 1 วันที่คุ้มค่าจริงๆ  และขอบคุณภาพความทรงจำดีๆจาก my Dive Master ทั้งสอง :)




- - - 15. 04. 2018 - - -


วันนี้เป็นวันที่เราต้องจาก Oslob ไปในตอนเย็น เพราะเราต้องใช้เวลาอีกประมาณ  4 -5 ชั่วโมงในการ กลับเข้า Cebu City เพื่อพรุ่งนี้ต้องบินกลับไทยแต่เช้า   
ก่อนกลับเราเลยไปทำกิจกรรมสุดฮิตที่ใครๆก็แนะนำ  Canyoneering โดยให้ทาง Biggies Inn จัดการให้ พร้อมกับเช่ารถให้เขาพากลับเข้า  Cebu City ในตอนเย็นด้วย 

แต่ Canyoneering ของพวกเรา แลจะดูแตกต่างจากที่เพื่อนๆเราบอกให้ไปนิดนึง โดย  Canyoneering หลักที่คนไปกัน จะเป็นในส่วนของ Kawasan Fall 
ส่วน Canyoneering ที่พวกเราไปเล่น เรียกว่าไปโดดน้ำตก และ เล่นสไลด์เดอร์แบบ cute cute นั่น อยู่ในส่วนของน้ำตก  Cambais Fall  
เนื่องจากพวกเราเองก็ไม่ค่อยแน่ใจในความสามารถของการโดดน้ำซักเท่าไร ไกด์ที่จะเลือกทริปให้ก็แลดูจะเป็นห่วง 55+ เลยเสนอให้พวกเราไปน้ำตกที่เราสามารถเลือก level การกระโดดเอง เราก็เออๆ ไม่ได้รู้หรอกว่ามันจะดันเป็นคนละทีกัน 

แต่ว่า  Cambais Fall ก็ไม่ได้ทำให้พวกเราผิดหวัง 
น้ำสีสวย และธรรมชาติเงียบๆ ที่มีแค่ คนไทยไปโดดน้ำ 2  ไกด์นำทาง 1 ไกด์ตากล้อง 1 และเด็กๆ แถวนั้นที่เขามาเล่นน้ำกันและเป็นกองเชียร์ให้พวกเรา 55 







การเดินทางไป  Cambais Fall เราต้องเริ่มต้นจากแว๊นซ์มอเตอร์ไซด์กันก่อน 
แล้วก็เดินขึ้นเขาบริหารกล้ามเนื้อกันอีกหน่อย 








นี่เป็นจุดแรกที่คุณไกด์พาไปโดด  ระยะความสูงอยู่ที่ 18 ฟุต และเป็นครั้งแรกที่โดดน้ำตก พูดเถอะ !!! 
การมองลงไปข้างล่าง มันก็เสียวนิดๆ  ความสูงไม่ใ่ช่ปัญหา 
แต่ปัญหาที่สูงสุดคือการกลัวหินในน้ำตก 

ว่าแต่ โดดไป 2 รอบ เรานับเป็น 36 ฟุตได้ปะ :P







สีน้ำตกที่นี้สวยมากกก และน้ำก็เย็นมากก 





จุดที่สอง ก็จะต่ำลงมาหน่อย แต่ที่สยองก็คือ หินนนนน 
คุณไกด์บอกว่า ให้ก้าวกว้างๆ ก้าวยาวๆ  ไอ้เราก็แบบมันต้องกว้างแค่ไหนนนน ถึงจะไม่โดนหิน >< 


ส่วนด่านสุดท้ายเป็น สไลเดอร์น้ำตก ที่โคตรชอบเลยยย เล่นจนทำกางเกงตูดขาด  >///<










เหล่ากองเชียร์ที่พอหันกล้องใส่ก็พร้อมใจกันกระโดดหนี  !!!


หลังจากใช้เวลาแช่น้ำซักพัก ทริปโดดน้ำเล่นก็จบลงด้วยการเข้ากระท่อม กินมะพร้าวที่เฉาะโดยไกด์ของเราเอง  เป็นมะพร้าวลูกโตที่อร่อยมากๆ 









หลังจากเสร็จกิจกรรมที่  Cambais Fall  และกินข้าวเที่ยง
พวกเราก็พอจะมีเวลาไปนอนเล่นแช่น้ำกันที่  Kawasan Fall   
น้ำตกที่ป๊อปปูล่าสุดๆ  และคนเยอะสุดๆ 





การเล่นน้ำที่นี้ต้องสวมเสื้อชูชีพ เพราะทั้งลึกและหนาววว และเพื่อความปลอดภัย





ตอนแรกก็คิดว่าจะใช้เวลาอยู่ 2 ชม. แต่การอยู่แช่น้ำอย่างเดียว 2 ชม. มันก็เกินไป 555 เพราะด้วยน้ำที่เย็น และผู้คน พวกเราเลยลอยคอเล่นน้ำไปมาอยู่ซักพัก ก่อนจะไปจบลงที่การนั่งกินกล้วยคลุกซอสเผ็ดๆหวานๆ ก็แปลกไปอีกแบบดี และ ข้าวโพดปิ้งโรยผงชีสสส






แม้จะเป็นวันสุดท้ายพวกเราก็ยังจบลงด้วยสภาพตัวเปื่อย
หลังจากอาบน้ำเสร็จสรรพ เราก็พร้อมหลับบนรถที่กำลังพาแล่นออกจากเมืองเพื่อไปยังโรงแรมใน Cebu city





เฮ้อ ต้องจากกันแล้วซินะ เมืองสีฟ้า 
ไว้มีโอกาสเจอกันอีกนะ :)

 บ๊ายบาย Oslob





Comments