[Maldives in November] : มัลดีฟส์ซักครั้ง
"เสียตังค์ตั้งแพง ไปทำไม ? ไปแค่ นั่งๆ นอนๆ มองท้องฟ้า ลอยทะเล ตาปริบๆ"
หลายๆคนคงเกิดคำถาม
แต่ถ้าได้ไปเหยียบที่นั้นซักครั้งจะรู้ว่า
'สวรรค์บนดินมันมีจริง'
และที่นั่น ภาพที่เห็นในดวงตาสวยงามกว่ารูปถ่ายจริงๆ
กิจกรรม 4 วัน 3 คืน ก็...
ตื่น กิน ดำน้ำภาคเช้า เล่นน้ำ กิน ดำน้ำภาคบ่าย นอนเปล จิบcocktail เล่นน้ำ กิน ปาร์ตี้ ซดเหล้า เปิดช๊อต เต้นรำ หัวเราะกับคนชาติอื่น กลับห้อง เมา กอดชักโครก และ นอน
แต่ทุกช่วงเวลาที่ขาดไปไม่ได้คือการเงยหน้ามองท้องฟ้า ผ้าใบพื้นใหญ่ที่มีจิตรกรชื่อก้องโลกมานั่งละเลงไล่สีฟ้า สีน้ำเงิน สีแสด สีชมพูอ่อน สีเหลืองทอง สีก้อนเมฆ หมุนเวียนเปลี่ยนไปเปลี่ยนมาทุกนาทีราวกับว่าเขาไม่เคยหยุดพอใจกับผลงานตัวเองซักที ไม่ใช่แค่ท้องฟ้าแต่ยังมีภาพของท้องทะเลที่ไล่สีน้ำเงินเข้มมาอ่อน ตัดเส้นกันกับท้องฟ้า แล้วไหนจะแจ๊กพอตโป๊ะแตกเจอวันดาวเต็มท้องฟ้า ไหนช้างเผือกไม่รู้ รู้แต่ว่า ฉันจินตนาการไปเรียบร้อยแล้วว่าฉันเห็นทางช้างเผือก
.... ให้ตายซิ พูดไม่ออกจริงๆ รู้แต่ ระริกระรี้มากกก ยังกะเจอฝรั่งถอดเสื้อ
'สำหรับคนสะสมท้องฟ้า ปิ๊งทะเล ชอบมองดาว และบ้าฝรั่ง '
เป็นอะไรที่โคตรจะฟินนนนน
...........................................................................................................
มัลดีฟส์ หรือ สาธารณรัฐมัลดีฟส์ ประเทศที่เป็นเกาะน้อยๆ ติ่งๆอยู่ใกล้ๆ ประเทศอินเดีย และศรีลังกา
แต่ก่อนเกาะสวรรค์นี้เคยตกเป็นอาณานิคมของอังกฤษ ก่อนจะได้อยู่แบบสะแตนอโลนในปี 2508
-----------
มัลดีฟส์เรียกได้ว่าเป็นจุดหมายปลายทางอันดับแรกๆที่อยู่ใน travel bucket lists ของเราเอง
การมามัลดีฟส์ครั้งนี้ไม่ได้มากับแฟนแต่มากับเพื่อนสาวอีกคน
โอเค ผู้ ญ 2 คนมาเที่ยวมัลดีฟส์ นอนบ้าน honeymoon suit
ก็ไม่แปลกเท่าไรที่เขาจะนึกกันว่าเป็นเลสเบี้ยน :3
-----------
~ ที่อยู่ของสวรรค์ ~
เราบินโดยสายการบิน Sri Lanka airline เนื่องจาก save cost มากกว่า Bangkok airway แม้จะเสียเวลา Transit แต่ขอบอกว่าคุ้มค่ามาก เนื่องจากไฟท์ Sri Lanka จะเป็นไฟท์ที่บินกลับไทยดึก ทำให้เรามีโอกาสนอนแช่อยู่ที่ รร. ใช้ชีวิตบนเกาะสวรรค์นี้ได้อีกครึ่งวันฟรีๆ แม้จะ check out ห้องแล้วก็ตาม
สนามบินที่นี้เป็นสนามเล็กกระทัดรัดไม่ต้องเดินมากให้เมื่อยตุ่ม
เป็นสนามบินบนเกาะที่ดูสดใส ออกมาปุ๊ป สีน้ำเงิน เขียว ขาว ก็โผล่มา .. รู้สึก fresh !!
ด้านนอกสนามบิน เราจะเจอกับ counter ของ โรงแรมทุกโรงแรม
เป็นหน้าที่ของเราที่ต้องเดินไปให้ถูก counter อย่าหลงเดินตามฝรั่งไปนะ !! ท่องไว้ว่าไป รร. >//<
โรงแรมที่เราเลือกพัก คือ Club med Kani โดยติดต่อผ่าน agency ในไทย
และช่วงเดือนพฤศจิกายนเป็นช่วงที่ใกล้จะเหยียบเข้า high season
ห้องพักช่วงนี้ rate ค่อนข้างจะสูง และจะสูงสุดๆ ในช่วงธันวาคม
และถึงแบบนั้น เราก็ยังเลือกบ้านพักแบบบ้านที่ยื่นๆลงทะเล
เพราะเราถือคติว่าในเมื่อต้องจ่ายตังค์แล้ว เราก็ต้องเอาให้สุด !!
~ แต่ละวันที่ตื่นมาจะพบความต่าง ~
บ้านยื่นๆออกทะเล ที่เราได้ แทบจะเป็นหลังปลายติ่งของโรงแรม สงบ สวย โรแมนติกเรียกได้ว่า ฟิน กระจาย เลือดสาด มากก
~ฉันกำลังอยู่ใจกลางมหาสมุทรอินเดีย
อยู่ที่นี้ เราไม่ได้มีไรให้ทำกันมากนัก และเราก็ไม่คาดหวังที่จะมาทำอะไรมากนักเพราะเรามานี้ เรามาเพื่อพักผ่อน แล้ววันพักผ่อนของเราแต่ละวัน ก็มีลม มีแดด มีท้องฟ้า มีผู้คน มีภาษา ... ที่ต่างกัน
และหน้าบ้านของเรา มีสระว่ายน้ำขนาดใหญ่
สระว่ายน้ำที่เป็นส่วนนึงของโลก
~ สีของท้องฟ้า และ ท้องทะเล ~
เอาจริงๆนะ บางวัน สีของท้องฟ้า ก็ทำเราแทบลอยไปเลย
โชคดี วันที่มาเป็นวันที่ดาวเต็มฟ้ามากที่สุด
ดาวก็ดาวดวงเดิม ท้องฟ้าก็ท้องฟ้าผืนเดียวกัน แต่มันอยู่จังหวะ และ มุม
~ สระว่ายน้ำสอนชีวิต ~
สระว่ายน้ำของโลก อาจดูสงบ ดูนิ่งๆ แต่มันก็เกือบทำเราตายที่นี้ สวยนะ สวยแต่อันตราย และที่มันอันตรายก็เพราะความประมาทของเราเอง
ธรรมชาติก็คือธรรมชาติ มันไม่เคยทำร้ายใคร ล้วนแต่เป็นตัวเราเองทั้งนั้น
การกระโดดน้ำลงไปในสระใหญ่ โดยที่ไม่มีเสื้อชูชีพ ไม่ผูกเชือกไว้กับเสาบ้าน ไม่ฟังคำเตือนจากเจ้าหน้าที่ แรงน้ำที่พัดออกไปนอกฝั่ง ความตกใจที่ว่ายทวนน้ำไม่ได้ สุดท้ายก็เกือบพาเราออกไป นู้น ..ที่นู้น ที่ไหนก็ไม่รู้
'ตราบใดที่คนเรายังไม่อยากตาย ใจและสมองเหมือนมีระบบสั่งการอัตโนมัติให้ทำยังไงก้ได้ให้รอด'
รู้ตัวอีกทีก็เกาะอยู่ที่เสาสะพาน เกาะเป็นลิง เกาะเป็นปลิง เกาะแบบไม่ยอมปล่อย ให้ตายก็ไม่ยอมปล่อย
เกาะแล้วยังหัวเราะ หัวเราะทำไม ก็ไม่รู้เหมือนกัน หัวเราะจนเจ้าหน้าที่ได้ยิน ร้องขอความช่วยเหลือก็ดันร้องเป็นภาษาไทย โคตรเป็นโชคดีที่มีพนักงานทำความสะอาดเข็นรถมาทำห้องพอดี เขาถึงได้ชะโงกหน้าลงมา
ชั่วขณะนั้นรู้สึกโล่งมาก รู้สึกอยากจะขอบคุณทุกๆอย่างบนโลกใบนี้
เจ้าหน้าที่โรงแรมที่วิ่งมา ห่วงยางชูชีพถูกแกะจากสะพานไม้ โยนลงมาให้
การพยายามเข้าในอยู่ในห่วงยางชูชีพ การต้องลอยออกไปกลางทะเลเนื่องจากเชือกของห่วงยางที่ยาวมาก จนกระทั่งการพยายามปีนขึ้นระเบียงบ้านหลังสุดท้ายที่อยู่ถัดไปจากบ้านตัวเอง
โคตรเหนื่อย !!
มันน่ากลัวนะ แต่ก็อยากขอบคุณ
เป็นบทเรียนที่เป็นจุดเปลี่ยนความคิดอะไรๆหลายอย่างๆ นะที่ส่งผลมาถึงการกระทำในตอนนี้
มันน่ากลัวนะ แต่ก็อยากขอบคุณ
เป็นบทเรียนที่เป็นจุดเปลี่ยนความคิดอะไรๆหลายอย่างๆ นะที่ส่งผลมาถึงการกระทำในตอนนี้
เรารู้สึกว่าคนเราถ้าเคยเกือบตายมาครั้งนึง เขาจะเกิดความกลัว
กลัวว่าสิ่งที่เขาทำตอนนี้ยังไม่คุ้มค่าพอกับการที่เขาได้เกิดมา เพราะเราไม่รู้หรอก ว่าเราจะโง่เอาชีวิตไปทิ้งอีกเมื่อไรอย่าไปเสียเวลาทำตามความคาดหวังใคร อย่าไปเสียเวลารอ อย่าไปเสียเวลาสู้รบปรบมือกับใคร อย่าไปเสียเวลาพึ่งพาคนอื่น อยากทำๆ ก็ทำๆไปเถอะ อยากลอง ก็ลองๆไปเถอะ
... มันก็มีกันเท่านี้
ชั่วขณะนั้น แม่งโคตรรุ้ซึ้งเลยว่า
'เวลาในชีวิตคนเรามีค่าแค่ไหน'
ที่นี้ เรามีนก มีปลาฉลามตัวเล็ก มีปลาตัวน้อย มีปลากระเบนมีพิษ มีปลานกแก้ว มีปลาหมึก มีแมงกระพรุน มี 9ล9
... อืมมม ขาดไรอีกน้า .
..ขาดปลาปิรันยา
~ ความสดใสของบรรยากาศ~
~ สนุก และ ตื่นเต้น ~
อยู่ที่นี้ ไม่กิน ไม่นอน ก็ดำน้ำ !!
ที่ที่เขาเอาเราไปปล่อยมันลึกมากๆ เขาชอบพาไปส่องตรงเหว ว่ายไป ส่องไป มองไป
บางทีก็รู้สึกสยิวท้องพูดเลย
มองลงไปที ก็จินตนาการไปที ... จะมีสัตว์ประหลาดออกมาไหมน้า
เจอ เต่า
เจอ ล็อบสเตอร์ ..คาดว่าไม่ใช่คนโสดถูกเสกมาให้เป็นหรอกนะ
และการเจอที่ประทับใจที่สุดก็คงไม่พ้นภาพปลาที่ว่ายกันเป็นฝูงเหมือนในเรื่อง Finding Nemo เราเรียกชั่วขณะนั้นว่าว่า 'ปลาไปโรงเรียน"
ได้แต่มองพวกฝรั่งที่ดำลงไปด้านล่างด้วยความอิจฉา รอให้เราได้เรียน scruba บ้างก่อนเถอะ
รูปดอกไม้ใต้น้ำที่ได้มา ก็เนี่ย ฝีมือเพื่อนทั้งนั้น แต่หุ่นฝรั่งที่ส่องมา นี่สายตาตัวเองล้วนๆนะ (สำรวมด้วย)
~ รอยยิ้มของคนที่ไม่รู้จักกัน ~
'คนไทยยิ้มง่าย คนไทยยิ้มเก่ง' ใช่ซิ ...เวลาเราทำเรื่องน่าอาย เราก็ยิ้มเวลาเรากำลังงง เราก็ยิ้ม เวลาเราโดนด่า เราก็ยิ้ม
เวลาเราไม่เข้าใจว่ายูพูดอะไร ไอก็ยิ้ม !!
การยิ้มทำให้พวกเรา popular !! ในหมู่ staffs นอกจากการยิ้มก็คงเพราะเราสองมากันเป็นคู่เลสเบี้ยนในชณะที่ชาวบ้านมา Honeymoon
อยู่ที่นี้ staffs มาเล่นกันแบบเพื่อน อยู่ที่นี้ staffs มากินข้าวด้วย อยู่ที่นี้ staffs มาเม้าด้วย อยู่ที่นี้ staffs มาสอนเต้นรำพื้นเมืองด้วย แล้วนางยังจะมาว่าฉันอีกแหนะ ว่า 'easy นะยู' แต่ขาตูนี่พันกันหนักมากอยู่ทีนี้ staffs แจกรอยยิ้มให้ตลอด อยู่ที่นี staffs อายุเท่าเรา อยู่ที่นี้ staffs เป็นมากกว่า staffs เพราะพวกเขาคือ นักแสดง !! ละครเวทีจงมา การเต้นรำจงมาอยู่ที่นี้ staffs ก็เหมือน staffs ค่ายภาษาอังกฤษ ที่ทำให้ชีวิตเราหรรษามากๆ
เวลาเราไม่เข้าใจว่ายูพูดอะไร ไอก็ยิ้ม !!
การยิ้มทำให้พวกเรา popular !! ในหมู่ staffs นอกจากการยิ้มก็คงเพราะเราสองมากันเป็นคู่เลสเบี้ยนในชณะที่ชาวบ้านมา Honeymoon
อยู่ที่นี้ staffs มาเล่นกันแบบเพื่อน อยู่ที่นี้ staffs มากินข้าวด้วย อยู่ที่นี้ staffs มาเม้าด้วย อยู่ที่นี้ staffs มาสอนเต้นรำพื้นเมืองด้วย แล้วนางยังจะมาว่าฉันอีกแหนะ ว่า 'easy นะยู' แต่ขาตูนี่พันกันหนักมากอยู่ทีนี้ staffs แจกรอยยิ้มให้ตลอด อยู่ที่นี staffs อายุเท่าเรา อยู่ที่นี้ staffs เป็นมากกว่า staffs เพราะพวกเขาคือ นักแสดง !! ละครเวทีจงมา การเต้นรำจงมาอยู่ที่นี้ staffs ก็เหมือน staffs ค่ายภาษาอังกฤษ ที่ทำให้ชีวิตเราหรรษามากๆ
~เมา อย่าง สงบ~
Comments
Post a Comment