[Sangkhlaburi] : อยู่ที่นี้ 3 วัน 2 คืน ทำอะไรกันนะ ?? #3cities1stcampproject
7. 50 น. จากการศึกษาข้อมูลเขาบอกกันว่าให้นั่งทางด้านซ้าย วิวดี แดดก็ดีเช่นกัน...
รถไฟขบวน 9257 ชั้น 3 บชส.76 ขบวนรถบริการสังคม 9257 04-02
สาย ธนบุรี-กาญจนบุรี
ด้วยความหวังดีของพนักงานออกตั๋ว เขาว่าลงกาญแล้วต่อรถตู้ในเมืองไปสังขละจะง่ายกว่า
แต่ด้วยความตั้งใจอยากไปให้สุด ก็เลย นั่งเลยป้าย ยาว ยาว ถึง 'สถานีน้ำตก'
การกินมะม่วงมันกรอบๆ ในขณะที่ฝุ่นปลิวว่อนเข้ามาทางหน้าต่างที่เปิดอ้าซ่า 'มะม่วงคลุกฝุ่น' มันก็อร่อยดีนะ
ซักพักก็มีพี่ผู้ชายถือถาดแพนเค้กคลุกน้ำตาลมาขาย ... ได้ควักตังค์อีกละ
ทำไมแค่นั่งรถไฟเฉยๆ ก็หิว
ทำไมแค่นั่งรถไฟเฉยๆ ก็หิว
จุดประสงค์ที่นั่งรถไฟมาสังขละให้ได้ แน่นอนก็ต้องเป็นเพราะอยากมาอยู่ในจุดของ รถไฟสายมรณะ
คลาสสิกอะ สูงดีด้วย
คลาสสิกอะ สูงดีด้วย
ชอบฟีลลิ่งที่ชะโงกหัวออกไปนอกหน้าต่างแล้วเห็น หัว เรียงรายอีกเป็นสิบ สิบ
'ถึงเรามาคนเดียว แต่รถไฟไม่ได้มีแค่เรา เราก็เลยไม่รู้สึกว่าเรา มาคนเดียว'
12.45 น. ถึงสถานีน้ำตก เดินออกจากสถานีตามๆคนอื่นมาอย่าง งงๆ
เจอ 2 แถว เรียกให้ขึ้น ก็ขึ้นไปแบบ งงๆ 555
รถ 2 แถว จะพาเราไปจอดตรงหน้าน้ำตกไทรโยค
พี่คนขับ 2 แถวบอกเราว่าให้ข้ามถนนไปนะ แล้วรอใต้ต้นหูกวาง รอรถไปสังขละตรงนั้น
และคำถามก็เกิดขึ้นในใจฉับพลัน "ต้นไหนคือต้นหูกวาง !! "
โชคดี skill การเอาตัวรอดมีไม่ต่ำ เลยแกล้งซื้อน้ำใน 7-11 ช้าๆ เพื่อรอคุณลุงที่นั่ง 2 แถวมาด้วยกัน
ตอนนั่ง แอบฟังพี่แกคุยอยู่ จับใจความได้ว่า ... แกน่าจะไปสังชละ
ฉะนั้น ก็รอแกนำ และเป็นบุญจริงๆ ที่การจับใจความไม่ผิดพลาด เพียงแต่แกลงก่อนสังขละแค่นั้น
และเป็นเพราะแก การเดินทาง 4 ชม จากต้นหูกวางถึงสังขละบุรี ฉันถึงได้นั่งตากแอร์เย็นๆ และหลับปุ๋ยอยู่บนรถทัวร์ สาย กทม - สังขละ
จุดขายตั๋วอยู่หน้าร้านอาหารใกล้ๆต้นหูกวาง (คือต้นไหน?)
16.30 น. ถึงท่ารถสังขละบุรี (ซอย 1) " สวัสดีสังขละ"
และเดินๆ แบกเป้ หน้าเอ๋อๆ มาที่ ซอย 3
ที่พักเราอยู่หน้าซอยนี้ >>OH DEE HOSTEL<<
ชีอกโกแลตปั่นอร่อยมากกกกกก
เราจองห้องผ่าน agoda เลยได้ promotion ส่วนลดในระดับที่คุ้มค่า
ห้องนอนที่เราเลือกเป็นแบบห้องรวม มี 4 เตียง
แต่ ... ช่วงที่เราอยู่ มันกลายเป็น ห้องเดี่ยว ที่ถุกใช้แค่เตียงเดียว T_T
สิ่งที่โหดร้ายที่สุดของการนอนที่สังขละ คือ ยุง !!
ตื่นมาทุกเช้า เราจะพบ ตุ่มผุดๆขึ้นตลอดเวลา (offset กันจนไม่เป็นไข้เลือดออก)
เราสู้มันไม่ได้เลย ซอฟเฟลก็เอาไม่อยู่
ที่เจ็บกว่านั่น เราจะพบตุ่มขึ้นในบริเวณที่เราปกป้องด้วยการทายากันยุง อย่างดี !!
ที่โชคดีที่สุดของการมาเที่ยวคนเดียว คือการได้เจอเพื่อนดีๆเพิ่ม
และมาสังขละบุรีครั้งแรกครั้งนี้ ก็เจอเช่นกัน
ที่บังเอิญกว่านั่น คือเรียนจบที่เดียวกัน ทำงานสายอาชีพเดียวกัน และ บ. ก็อยู่ตึกข้างๆกัน
โลกมักจะกลม เสมอ
และก็เพราะ เพื่อนใหม่ เราถึงได้เที่ยวรอบสังขละบุรี
ขอบคุณที่สุดเลย :)
วัดแรกที่มา คือ วัดสมเด็จ (เก่า) เป็นวัดที่อยู่บนฝั่ง
และ signature ที่ขาดไปไม่ได้ของการนั่งเรือเที่ยว คือ วัดใต้น้ำ หรือ เมืองบาดาล
อยู่ที่นี้ 3 วัน 2 คืน ทำอะไรบ้าง
... อืม...
หนึ่ง .. ตื่นเช้ามาใส่บาตรที่ฝั่งมอญ
นุ่งชุดมอญด้วยนะ แล้วเราอาจจะกลายเป็นดาราให้นักท่องเที่ยวถ่ายรุป
สอง .. ตื่นเช้ามาให้ทันกินโจ๊กที่ฝั่งมอญ
สาม .. ไปไหว้พระวัดรอบๆ ซะหน่อย
ห้า .. ให้เวลากับร้านกาแฟหลังอาหารเที่ยง ซักนิด
แล้วก็กลับที่พักไปนอนหลบแดดซะ
หก .. ปั่นจักรยานไปสะพานมอญ หลังสี่โมงเย็น
กฏข้อนึงของการมาเที่ยวคนเดียว เราต้องรู้จักผูกมิตรกับ หมา และ แมว
แปด .. ปั่นจักรยานมาอำลาสะพานตอนเช้าก่อนกลับ
เก้า .. ไม่ว่าจะหลับบนรถทัวร์ลึกแค่ไหน ต้องแหกตาตื่นมาตรง จุดขมวิวแม่น้ำรันตี ให้ได้
แค่เห็นจากกระจกรถทัวร์ ก็ตะลึง อย่างจัง !!
สิบ .. หลับซะ
แอร์เย็นๆบนรถทัวร์
Comments
Post a Comment